
เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วมีหลักการทำงานอย่างไร
Pulse oximetry เป็นการทดสอบวัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนหรือระดับออกซิเจนในเลือดของคุณ โดยที่ไม่สร้างความเจ็บปวดในระหว่างการวัดผล โดยมันสามารถตรวจจับค่าได้อย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของออกซิเจนที่ถูกนำไปยังแขนขาที่ห่างจากหัวใจมากที่สุด เครื่องมีขนาดเล็กมากสามารถหนีบติดกับส่วนใดของร่างกายก็ได้ เช่น นิ้วเท้า หรือ ใบหู แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้หนีบนิ้วมือมากกว่า และมักใช้ในสถานพยาบาลที่สำคัญ เช่น ห้องฉุกเฉิน หรือโรงพยาบาล แพทย์บางคนเช่นแพทย์ระบบทางเดินหายใจมักใช้เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยหลัก
จุดประสงค์ของการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด คือการตรวจสอบว่าหัวใจของคุณสูบฉีดออกซิเจนผ่านร่างกายของคุณได้ดีเพียงใด โดยอาจใช้เพื่อตรวจสอบสุขภาพของบุคคลที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อระดับออกซิเจนในเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พวกเขาอยู่ในโรงพยาบาล เงื่อนไขเหล่านี้ ได้แก่
1.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
2.โรคหอบ
3.โรคปอดอักเสบ
4.โรคมะเร็งปอด
5.โรคโลหิตจาง
6.โรคหัวใจ
หลักการทำงานของเครื่องวัดออกซิเจน
ในระหว่างการอ่านค่าออกซิเจนในเลือด อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตัวหนีบขนาดเล็กจะถูกวางไว้บนนิ้ว ติ่งหู หรือนิ้วเท้า โดยมันจะฉายลำแสงเล็กๆ ส่องผ่านเลือดในนิ้วเพื่อวัดปริมาณออกซิเจน ทำได้โดยการวัดการเปลี่ยนแปลงของการดูดกลืนแสงในเลือดที่มีออกซิเจน โดยไม่จำเป็นต้องทำการเจาะร่างกายจึงเป็นกระบวนการที่ไม่สร้างความเจ็บปวดแก่ผู้ที่ถูกวัดผล เครื่องนี้สามารถนำมาใช้ได้ในบ้านหากแพทย์เห็นสมควร โดยหลักการมีอยู่ดังนี้
1.โดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายคลิปจะถูกวางไว้บนนิ้ว ใบหูส่วนปลาย หรือนิ้วเท้า คุณอาจรู้สึกได้ถึงแรงกดเล็กน้อย แต่ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ในบางกรณีโพรบขนาดเล็กอาจวางบนนิ้วหรือหน้าผากติดด้วยเทปกาว ขณะที่บางคนอาจจำเป็นต้องล้างเล็บก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เพิ่งทาสีเล็บมา
2.เครื่องจะถูกสวมเอาไว้นานเท่าที่ต้องการ เพื่อตรวจวัดระดับชีพจรและความอิ่มตัวของออกซิเจน เมื่อใช้ในการตรวจสอบความสามารถในการออกกำลังกาย สิ่งนี้มักจะใช้สำหรับการฝึกซ้อม หรือในช่วงระยะเวลาพักฟื้น ถ้าใช้ในระหว่างการผ่าตัด เครื่องจะถูกติดไว้ที่มือก่อนจะนำออกเมื่อคนไข้ฟื้นได้สติขึ้นมา โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าดูอาการแล้ว ในขณะที่บางครั้งมันอาจถูกนำมาใช้เพื่อวัดผลเพียงครั้งเดียวที่ใช้เวลาไม่กี่ถึงนาที
3.หลังจากที่การวัดผลได้เสร็จสิ้นแล้ว เครื่องจะถูกนำออกมา
การอ่านค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
โดยปกติแล้วการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะเป็นการทดสอบที่แม่นยำ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงที่พบในได้ในคลินิกหรือโรงพยาบาลส่วนใหญ่ ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสม่ำเสมอภายในความแตกต่างกันไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ หากมีการอ่านค่าได้ 82 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่นระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนที่แท้จริงอาจอยู่ที่ 80 ถึง 84 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงการประเมินส่วนบุคคล รวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่นการเคลื่อนไหว อุณหภูมิ หรือยาทาเล็บที่สามารถส่งผลกระทบต่อความถูกต้อง
โดยปกติแล้วเลือดของเราควรอยู่ในระดับที่มากกว่า 89 เปอร์เซ็นต์ของออกซิเจน นี่คือระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนที่จำเป็นต่อการรักษาเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง ในขณะที่การมีความอิ่มตัวของออกซิเจนต่ำกว่านี้จะอาจก่อให้เกิดความเสียหายจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจน 95 เปอร์เซ็นต์ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับบุคคลที่มีสุขภาพดีที่สุด ระดับ 92 เปอร์เซ็นต์แสดงถึงภาวะขาดออกซิเจนในเลือดหรือการขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อถึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยสรุปแล้วมันถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ช่วยให้วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น แถมยังมีความเที่ยงตรงสูงกว่าการใช้วิธีวัดแบบอื่นๆ