
กำเนิดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อยู่ภายใต้สังกัดสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2457 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดเป็นโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์แห่ง 2 ของประเทศไทย
ประวัติโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถือกำเนิดขึ้นตามหลักพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์มีพระราชประสงค์ ซึ่งจะทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระชนม์อยู่นั้น ท่านได้พระราชดำริจัดตั้ง สภากาชาดไทย
โดยมีชื่อเสียงในช่วงเวลานั้นว่า ‘สภาอุณาโลมแดง’ โดยมีจุดประสงค์ในการรักษาพยาบาลผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยเหตุนี้พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้บริจาคเงินร่วมกัน 122,910 บาท เพื่อนำมาสมทบกับทุนของสภากาชาดสร้างโรงพยาบาลขึ้น และพระราชทานนามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์รำลึกถึงพระบรมชนกนารถ ท่านทรงเสร็จพระราชดำเนิน เปิดโรงพยาบาล ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2457 โดยได้มีการกำหนดเป้าหมายให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้เป็นโรงพยาบาลอันยอดเยี่ยม ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์พร้อมแผ่พระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริการรักษาพยาบาลแห่งนี้ จะต้องเข้ามามีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาลไทย ให้บริการรักษาผู้บาดเจ็บรวมทั้งผู้ป่วยไข้ทั้งเมื่อคราวเกิดสงครามและช่วงปกติ โดยยึดมั่นในหลักการที่ตั้งไว้อย่างแน่วแน่ ด้วยการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บทั่วไป อย่างไม่เลือกชนชาติ, วรรณะ , ลัทธิ , ศาสนา รวมทั้งความคิดเห็นทางการเมือง
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดให้บริการทางการแพทย์ , พยาบาล รวมทั้งนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ ตลอดจนวิทยาศาสตร์อันทันสมัยเข้ามาใช้ศึกษารวมทั้งรักษาผู้ป่วย เพื่อรักษาพยาบาลอันมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังมีการส่งเสริมค้นคว้าวิจัยแต่ที่โรงพยาบาลเปิดบริการมาตั้งแต่วันแรก อีกทั้งยังได้มีการพัฒนาการรักษา, พัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เกิดความเจริญเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านการรักษาพยาบาลและงานวิจัย อันเนื่องมาจากการประสานงานอย่างกลมเกลียวทั้งระหว่าง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์กับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากวันที่เปิดเป็นวันแรก จวบจนถึงวันนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสีย ง ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยจำนวนมาก มีความทันสมัยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ , รักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจนป้องกันโรคพร้อมส่งเสริมสุขภาพอันได้มาตรฐาน ให้การฝึกอบรมและการค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความโดดเด่นทางด้านวิชาการ จากการให้รักษาพยาบาลผู้ป่วยในทุกระบบอย่างครบวงจร รวมทั้งดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักจรรยาบรรณอันควบคู่ไปกับหลักธรรมาภิบาล ในการเป็น ‘โรงพยาบาลควบคู่โรงเรียนแพทย์คุณธรรม’ ภายใต้แนวคิดเชิงคุณธรรม ได้แก่ ‘ต้องมีความซื่อสัตย์ , มีความรับผิดชอบ , มีความเอื้ออาทร’ อันเป็นสถาบันต้นแบบที่เป็นตัวอย่างที่ดีงามต่อประเทศไทย